การอยู่ไฟหลังคลอดของคุณแม่มือใหม่ จำเป็นจริงหรือ?

    สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่เพิ่งผ่านภารกิจครั้งใหญ่อย่างการคลอดลูก นอกจากความสุขที่ได้เห็นหน้าเจ้าตัวน้อยแล้ว ยังมีอีกหนึ่งธรรมเนียมปฏิบัติที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณนั่นคือ “การอยู่ไฟ” ซึ่งมักจะมาพร้อมกับคำถามยอดฮิตในใจของคุณแม่ยุคใหม่ว่า การอยู่ไฟหลังคลอด ยังจำเป็นอยู่ไหมในยุคนี้? เราจะมาไขทุกข้อข้องใจ ชั่งน้ำหนักระหว่างความเชื่อโบราณกับหลักการแพทย์สมัยใหม่ เพื่อให้คุณแม่มือใหม่ทุกท่านได้ข้อมูลที่ครบถ้วนสำหรับตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง

 

การอยู่ไฟคืออะไร? ทำไปเพื่ออะไร?

การอยู่ไฟ คือ ภูมิปัญญาของคนโบราณที่ดูแลหญิงหลังคลอด โดยใช้ความร้อน เข้ามาช่วยฟื้นฟูร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมหาศาลตลอด 9 เดือนของการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร

ตามความเชื่อโบราณ การอยู่ไฟมีประโยชน์หลัก ๆ ดังนี้

  • ขับน้ำคาวปลา ความร้อนจะช่วยกระตุ้นให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น และช่วยขับของเสียหรือน้ำคาวปลาที่ยังคั่งค้างอยู่ออกมาให้หมดเร็วขึ้น
  • ปรับสมดุลร่างกาย คนโบราณเชื่อว่าระหว่างตั้งครรภ์ ธาตุในร่างกายของคุณแม่จะเสียสมดุลไป การอยู่ไฟจะช่วยปรับสมดุลธาตุไฟให้กลับคืนมา ทำให้ร่างกายอบอุ่น เลือดลมไหลเวียนดี
  • ลดอาการบวม ความร้อนช่วยขับเหงื่อและของเหลวส่วนเกินที่สะสมอยู่ในร่างกายระหว่างตั้งครรภ์ ทำให้อาการบวมตามส่วนต่างๆ ลดลง
  • ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การนวดประคบสมุนไพรด้วยความร้อน ช่วยคลายความปวดเมื่อยที่สะสมมาตลอดการอุ้มท้อง
  • บำรุงผิวพรรณ สมุนไพรต่างๆ ที่ใช้ในการอยู่ไฟ เชื่อว่าช่วยให้ผิวพรรณกลับมาสดใสเปล่งปลั่งขึ้น

กิจกรรมในการอยู่ไฟมักจะประกอบไปด้วย การนอนบนแคร่ไม้กระดานแล้วก่อไฟไว้ข้างใต้ (ในสมัยก่อน), การประคบสมุนไพร, การอบตัวในกระโจมสมุนไพร, การอาบน้ำสมุนไพร และการดื่มน้ำสมุนไพรอุ่นๆ

 

มุมมองทางการแพทย์สมัยใหม่

ในทางการแพทย์แผนปัจจุบัน ไม่ได้มีข้อบังคับหรือข้อบ่งชี้ว่าคุณแม่หลังคลอดจำเป็นต้องอยู่ไฟ แต่ก็ไม่ได้มีข้อห้ามเสียทีเดียว หากทำอย่างถูกวิธีและปลอดภัย โดยมองว่าประโยชน์ของการอยู่ไฟสามารถอธิบายในเชิงวิทยาศาสตร์ได้ ดังนี้ การไหลเวียนโลหิต ความร้อนสามารถช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้นจริง ซึ่งส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของร่างกายโดยรวม และช่วยให้มดลูกที่ขยายตัวมานานกลับสู่สภาพเดิมได้เร็วขึ้น       ความผ่อนคลาย การนวดและการประคบอุ่นๆ เป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับว่าช่วยลดความเครียดและคลายอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับคุณแม่ที่ต้องอดนอนและเหนื่อยล้าจากการดูแลลูกน้อย ด้านสุขภาพจิต ช่วงเวลาของการอยู่ไฟ เปรียบเสมือนการที่คุณแม่ได้มีเวลาพักผ่อนและดูแลตัวเองอย่างเต็มที่ การได้ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ สามารถช่วยลดความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้าหลังคลอดได้

 

ข้อควรระวังและความเสี่ยงที่ต้องใส่ใจ

แม้จะมีข้อดี แต่การอยู่ไฟก็มีความเสี่ยงหากทำอย่างไม่ถูกวิธี โดยเฉพาะการใช้ความร้อนที่สูงเกินไป อาจทำให้เกิด แผลพุพองจากการไหม้ (Burn) หรือ ภาวะขาดน้ำ (Dehydration) จากการเสียเหงื่อมากเกินไปได้

สำหรับคุณแม่ที่ผ่าคลอด ควรต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ต้องรอให้แผลผ่าตัดแห้งสนิทดีเสียก่อน (ประมาณ 30-45 วัน) เพื่อป้องกันการอักเสบและติดเชื้อ

 

จำเป็นหรือไม่…อยู่ที่คุณแม่เลือก

คำตอบคือ ไม่ถึงกับจำเป็น แต่ก็มีประโยชน์

ร่างกายของคุณแม่หลังคลอดสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ตามธรรมชาติอยู่แล้ว การพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ คือหัวใจสำคัญที่สุดของการฟื้นตัว

อย่างไรก็ตาม การอยู่ไฟถือเป็นทางเลือกเสริมที่ยอดเยี่ยมในการช่วยให้กระบวนการฟื้นตัวเร็วขึ้นและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในด้านการสร้างความผ่อนคลายและลดความเครียด ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของคุณแม่มือใหม่

 

คำแนะนำสำหรับคุณแม่ยุคใหม่

เลือกผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ หากตัดสินใจจะอยู่ไฟ ควรเลือกสถานบริการหรือผู้ให้บริการที่มีมาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย และมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ฟังเสียงร่างกาย ไม่จำเป็นต้องทนร้อนจนเกินไป หากรู้สึกไม่สบายตัว วิงเวียน หรือร้อนเกินไป ควรหยุดพักทันทีและปรึกษาแพทย์ โดยเฉพาะคุณแม่ที่มีโรคประจำตัวหรือผ่าคลอด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจอยู่ไฟ        คุณแม่ไม่จำเป็นต้องทำครบทุกขั้นตอนตามแบบโบราณ อาจเลือกทำเฉพาะการนวดประคบสมุนไพร หรือการอบตัวในบางครั้งคราว เพื่อความผ่อนคลายก็ได้เช่นกัน

ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะเลือกอยู่ไฟหรือไม่ สิ่งสำคัญที่สุดคือการที่คุณแม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ มีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง พร้อมที่จะดูแลดวงใจดวงน้อยๆ ของคุณให้เติบโตอย่างมีความสุขต่อไป

 

หากคุณกำลังมองหาสถานที่เก็บรักษาสเต็มเซลล์ที่คุณไว้วางใจได้… 

STEM CELL FOR LIFE (สเต็มเซลล์ฟอร์ไลฟ์) คือคำตอบ

 

สอบถามบริการเพิ่มเติมได้ที่ สเต็มเซลล์ฟอร์ไลฟ์ (STEM CELL FOR LIFE) เรื่องสเต็มเซลล์มั่นใจได้ที่ SCL เพราะเราเป็นธนาคารสเต็มเซลล์แห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับใบอนุญาตการผลิตสเต็มเซลล์เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นยา จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.กระทรวงสาธารณสุข และเป็นบริษัทเดียวที่อยู่ภายใต้โรงงานเภสัชกรรมที่ได้รับ GMP มาตรฐานสากล

 

 

Hotline. 085-227-7909 24 ชั่วโมง

โทร. 0-2889-2600 จันทร์ – เสาร์ เวลา 08.00 – 17.00 น.

Email: stemcellforlife@greaterpharma.com

Line : @stemcellforlife

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *