หลายท่านอาจเคยได้ยินข่าวสารในปัจจุบันเกี่ยวกับเรื่องของ Stem Cell
ว่าเป็นความหวังใหม่ของวงการแพทย์ การเก็บสเต็มเซลล์ คือการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดจากบริเวณที่เหมาะสมของร่างกาย เช่น สายสะดือ ไขมัน หรือไขกระดูก เพื่อเก็บรักษาไว้ใช้ในอนาคตตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเพื่อความงามชะลอวัยและผิวพรรณ การรักษาโรคร้ายแรง หรือฟื้นฟูอวัยวะที่เสื่อมสภาพ ก็สามารถเป็นไปได้ด้วยการเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หน้าที่ของเซลล์ต้นกำเนิดสามารถเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตัวเองให้กลายเป็นเซลล์ชนิดต่าง ๆ เพื่อเข้าไปทดแทนเซลล์ที่เสื่อมสภาพหรือเสียหายในร่างกาย กระบวนการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดจะดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และต้องเก็บรักษาไว้ในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมอย่างเหมาะสม เพื่อรักษาคุณภาพและความสามารถของเซลล์ไว้ให้พร้อมนำมาใช้ในอนาคต
ความสำคัญของการเก็บสเต็มเซลล์
การเก็บสเต็มเซลล์: การลงทุนเพื่อสุขภาพในอนาคต
การเก็บสเต็มเซลล์ถือเป็นการวางแผนสุขภาพที่ชาญฉลาด ทั้งในด้านการป้องกันและเตรียมความพร้อมสำหรับการรักษาโรคร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นในวันข้างหน้า ด้วยคุณสมบัติพิเศษของสเต็มเซลล์ที่สามารถแบ่งตัวได้ไม่จำกัด และเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์ชนิดต่าง ๆ ในร่างกาย จึงมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูและรักษาอวัยวะที่เสื่อมสภาพ
หนึ่งในแหล่งสเต็มเซลล์ที่บริสุทธิ์และมีศักยภาพสูงคือ รกและสายสะดือ ซึ่งสามารถเก็บไว้ใช้ได้ทั้งกับเจ้าของเองหรือสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะในโรคเกี่ยวกับระบบเลือด เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือธาลัสซีเมีย การมีสเต็มเซลล์จากตัวเองที่จัดเก็บไว้อย่างพร้อมใช้ ช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาได้อย่างทันท่วงที
ในยุคที่เทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ศักยภาพของสเต็มเซลล์จะยิ่งขยายขอบเขตไปไกล การเก็บรักษาสเต็มเซลล์ตั้งแต่วันนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ
การเก็บ Stem Cell แหล่งที่สามารถเก็บได้
การเก็บสเต็มเซลล์สามารถทำได้จากหลายแหล่งในร่างกาย ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งานในอนาคตและความเหมาะสม โดยวิธีการเก็บมีดังนี้:
- การเก็บจากสายสะดือและรกเด็กแรกคลอด
การเก็บสเต็มเซลล์จากสายสะดือและรกเด็กแรกคลอดเป็นวิธีที่ได้รับความนิยม เนื่องจากเป็นแหล่งสเต็มเซลล์ที่บริสุทธิ์ ปราศจากสารเคมีและพิษ จึงมีความสามารถในการเจริญเติบโตและสร้างเซลล์ชนิดต่าง ๆ ได้ดี อีกทั้งยังมีความเสี่ยงในการเกิดการต่อต้านหลังการปลูกถ่ายน้อยกว่าการใช้สเต็มเซลล์จากแหล่งอื่น การเก็บสามารถทำได้ง่าย ปลอดภัย และไม่ส่งผลกระทบต่อทั้งแม่และเด็ก
- การเก็บสเต็มเซลล์จากผู้ใหญ่ (ไขกระดูก)
การเก็บสเต็มเซลล์จากไขกระดูกจะดำเนินการโดยการดูดของเหลวจากไขกระดูก ซึ่งมีสเต็มเซลล์ชนิดเม็ดเลือดอยู่จำนวนมาก วิธีนี้มักใช้ในการรักษาโรคเลือด เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว การเก็บสเต็มเซลล์จากไขกระดูกมีความเสี่ยงต่อผู้บริจาค เช่น เจ็บปวด บาดเจ็บ หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการดมยาสลบ
- การเก็บสเต็มเซลล์จากเลือด
วิธีนี้จะกระตุ้นเม็ดเลือดขาวให้เข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งทำให้สามารถเก็บสเต็มเซลล์ได้ในปริมาณมาก ข้อดีของวิธีนี้คือไม่ต้องใช้การผ่าตัดใหญ่ อย่างไรก็ตาม การเลือกวิธีการเก็บสเต็มเซลล์จะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของผู้บริจาคและวัตถุประสงค์การใช้งานในอนาคต
- การเก็บสเต็มเซลล์จากไขมัน
การเก็บสเต็มเซลล์จากไขมันเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน โดยการดูดไขมันจากบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพก ไขมันมีสเต็มเซลล์ที่สามารถนำมาใช้ในการฟื้นฟูเนื้อเยื่อหรือรักษาโรคต่าง ๆ เช่น การรักษาโรคข้อเสื่อม การซ่อมแซมผิวหนัง หรือการเสริมความงาม เช่น การฟื้นฟูริ้วรอย การเก็บสเต็มเซลล์จากไขมันเป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้การผ่าตัดใหญ่และมีความเสี่ยงน้อยวิธีการเก็บสเต็มเซลล์หรือเซลล์ต้นกำเนิด จากแหล่งที่ต้องการ
ประโยชน์ของสเต็มเซลล์ (Stem Cell)
สเต็มเซลล์ คือเซลล์มหัศจรรย์ของร่างกาย ที่มีความสามารถพิเศษในการแบ่งตัวและเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ชนิดต่าง ๆ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นเซลล์เม็ดเลือด เซลล์ประสาท หรือแม้กระทั่งเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ ด้วยคุณสมบัตินี้เอง ทำให้สเต็มเซลล์กลายมาเป็นความหวังในวงการแพทย์สมัยใหม่ ทั้งการรักษาโรคเกี่ยวกับโลหิต เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว ภาวะไขกระดูกล้มเหลว รวมถึงการวิจัยเพื่อนำมาใช้ฟื้นฟูอวัยวะที่เสื่อมสภาพ
เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าไปทุกวัน บทบาทของสเต็มเซลล์จึงไม่หยุดแค่การรักษาโรคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการฟื้นฟูสุขภาพ ชะลอความเสื่อมของร่างกาย และอาจก้าวไปถึงการรักษาโรคร้ายแรงที่ยังไม่มีวิธีรักษาในอนาคต โลกแห่งการแพทย์ใบนี้ กำลังเปลี่ยนไปเพราะพลังของสเต็มเซลล์ที่เรายังมีโอกาสได้สัมผัสในชีวิตจริง
หากคุณกำลังมองหาสถานที่เก็บรักษาสเต็มเซลล์ที่คุณไว้วางใจได้…
STEM CELL FOR LIFE (สเต็มเซลล์ฟอร์ไลฟ์) คือคำตอบ
สอบถามบริการเพิ่มเติมได้ที่ สเต็มเซลล์ฟอร์ไลฟ์ (STEM CELL FOR LIFE) เรื่องสเต็มเซลล์มั่นใจได้ที่ SCL เพราะเราเป็นธนาคารสเต็มเซลล์แห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับใบอนุญาตการผลิตสเต็มเซลล์เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นยา จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.กระทรวงสาธารณสุข และเป็นบริษัทเดียวที่อยู่ภายใต้โรงงานเภสัชกรรมที่ได้รับ GMP มาตรฐานสากล
Hotline. 085-227-7909 24 ชั่วโมง
โทร. 0-2889-2600 จันทร์ – เสาร์ เวลา 08.00 – 17.00 น.
Email: stemcellforlife@greaterpharma.com
Line : @stemcellforlife