เซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells): พลังมหัศจรรย์ในการฟื้นฟูร่างกาย
เซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells) คือเซลล์ที่มีความสามารถพิเศษในการพัฒนาไปเป็นเซลล์ชนิดต่าง ๆ และสามารถแบ่งตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้เซลล์เหล่านี้มีบทบาทสำคัญในกระบวนการรักษาและฟื้นฟูร่างกาย จุดเด่นนี้ทำให้เซลล์ต้นกำเนิดมีความสำคัญอย่างมากในทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์
STEM CELL FOR LIFE สเต็มเซลล์ฟอร์ไลฟ์ (STEM CELL FOR LIFE) จะพาทุกคนไปเจาะลึกว่า เซลล์ต้นกำเนิดมีกี่ประเภท และแต่ละประเภทต่างกันอย่างไร
ประเภทของสเต็มเซลล์ (Stem Cell) สเต็มเซลล์สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักที่ได้รับการวิจัยและนำมาใช้งานทางคลินิกอย่างแพร่หลาย ได้แก่
- Hematopoietic Stem Cells (HSCs)
- Mesenchymal Stem Cells (MSCs)
ทั้ง 2 ชนิดนี้ต่างก็มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูสุขภาพของมนุษย์ แต่หน้าที่และแหล่งที่มากลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
1. Hematopoietic Stem Cells (HSCs)
เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด เป็นกลุ่มเซลล์ที่ ใช้สำหรับปลูกถ่ายและรักษาโรคเกี่ยวกับเม็ดเลือด การนำไปใช้ต้องตรวจความเข้ากันได้ของผู้ให้กับผู้รับ หากเป็นพี่น้องกันโอกาสที่สเต็มเซลล์จากเลือดจะเข้ากันได้ มีถึง 1 ใน 4
ทำหน้าที่อะไร?
HSCs คือเซลล์ต้นกำเนิดที่สามารถพัฒนาเติบโตไปเป็นเซลล์เม็ดเลือดได้ทุกชนิด ได้แก่
- เม็ดเลือดแดง (Red Blood Cells)
- เม็ดเลือดขาว (White Blood Cells)
- เกล็ดเลือด (Platelets)
พบได้ที่ไหน?
- ไขกระดูก
- เลือดสายสะดือ
- เลือดส่วนปลาย ผ่านการกระตุ้น
ใช้รักษาอะไรได้บ้าง?
- มะเร็งเม็ดเลือดขาว (Leukemia) หรือโรคมะเร็งระบบเลือดต่าง ๆ
- โรคธาลัสซีเมีย
- โรคภูมิคุ้มกันบกพร่องบางชนิด
- ใช้ในการปลูกถ่ายไขกระดูก
- โรคโลหิตจางต่าง ๆ ที่ต้องได้รับการถ่ายเลือด
2. Mesenchymal Stem Cells (MSCs)
เซลล์ต้นกำเนิดเนื้อเยื่อ เป็นเซลล์ประเภทที่สามารถแบ่งตัวเป็นเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกาย มีคุณสมบัติใช้ฟื้นฟูและซ่อมแซมอวัยวะที่เสื่อมสภาพ
สามารถนำไปใช้ได้โดยไม่จำเป็นต้องตรวจความเข้ากันได้ของผู้ให้กับผู้รับ
ทำหน้าที่อะไร?
MSCs คือเซลล์ต้นกำเนิดที่สามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์เนื้อเยื่อต่าง ๆ โดยทำหน้าที่หลัก ๆ
- เปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์ชนิดต่าง ๆ ได้หลายแบบ เช่น เซลล์กระดูก เซลล์กล้ามเนื้อ
- ซ่อมแซมเนื้อเยื่อโดยหลั่งสารพวก growth factor ต่างๆ
- กระตุ้นในการสร้างหลอดเลือดขึ้นมาใหม่
- ช่วยในการป้องกันตายของเซลล์ในกรณีของการทำงานช่วยเหลือของระบบภูมิคุ้มกัน
พบได้ที่ไหน?
- เนื้อเยื่อสายสะดือ
- เยื่อหุ้มรก
- ไขมัน
- รากผม
ใช้รักษาอะไรได้บ้าง?
- โรคข้อเสื่อม ข้อเข่าเสื่อม
- โรคหลอดเลือดสมอง
- โรคเกี่ยวกับระบบกล้ามเนื้อและโครงสร้าง
- โรคเบาหวานชนิดที่ 1 และ 2
HSCs vs MSCs: ต่างกันอย่างไร?
| คุณสมบัติ | HSCs | MSCs |
| พัฒนาเป็นเซลล์ | เม็ดเลือดทุกชนิด | กล้ามเนื้อหัวใจ ระบบประสาท
กล้ามเนื้อลาย กระดูกอ่อน |
| แหล่งที่พบ | ไขกระดูก เลือดสายสะดือ | เนื้อเยื่อสายสะดือ เยื่อหุ้มรก ไขมัน |
| การใช้งาน | ปลูกถ่ายไขกระดูก รักษาโรคเลือด | ฟื้นฟูเนื้อเยื่อ ซ่อมแซมเซลล์ต่าง ๆ |
| ศักยภาพ | Multipotent | Multipotent |
แม้ว่า HSCs และ MSCs จะเป็นเซลล์ต้นกำเนิดทั้งคู่ แต่ต่างก็มีบทบาทสำคัญในคนละด้าน HSCs เด่นด้านระบบเลือด ส่วน MSCs โดดเด่นด้านเนื้อเยื่อและโครงสร้างร่างกาย
ความเข้าใจพื้นฐานนี้จะช่วยให้เรามองเห็นศักยภาพของ “สเต็มเซลล์” ได้ลึกซึ้งขึ้น ถึงความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่อาจเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราได้ และตระหนักถึงการลงทุนเพื่อสุขภาพในอนาคตของคนที่คุณรัก การเก็บ Stem Cell นั้นจึงต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน กับสถานบันที่มีมาตรฐานในการเก็บรักษาคงคุณภาพของเซลล์ต้นกำเนิดของคุณ เพื่อให้ได้เซลล์ที่มีคุณภาพสูงสุด ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงในอนาคต
หากคุณกำลังมองหาสถานที่เก็บรักษาสเต็มเซลล์ที่คุณไว้วางใจได้…
STEM CELL FOR LIFE (สเต็มเซลล์ฟอร์ไลฟ์) คือคำตอบ
สอบถามบริการเพิ่มเติมได้ที่ สเต็มเซลล์ฟอร์ไลฟ์ (STEM CELL FOR LIFE) เรื่องสเต็มเซลล์มั่นใจได้ที่ SCL เพราะเราเป็นธนาคารสเต็มเซลล์แห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับใบอนุญาตการผลิตสเต็มเซลล์เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นยา จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.กระทรวงสาธารณสุข และเป็นบริษัทเดียวที่อยู่ภายใต้โรงงานเภสัชกรรมที่ได้รับ GMP มาตรฐานสากล
Hotline. 085-227-7909 24 ชั่วโมง
โทร. 0-2889-2600 จันทร์ – เสาร์ เวลา 08.00 – 17.00 น.
Email: stemcellforlife@greaterpharma.com
Line : @stemcellforlife