จากเดิมที่เคยมองว่าสายสะดือเป็น “ของเสียทางการแพทย์” ที่ถูกตัดทิ้งหลังคลอด ปัจจุบันความรู้ทางวิทยาศาสตร์ได้เปิดเผยว่า สายสะดือคือ “ทรัพยากรชีวภาพ” ที่ทรงคุณค่า หากเก็บรักษาอย่างเหมาะสมในช่วงเวลาหลังคลอดไม่กี่นาที ก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการดูแลสุขภาพระยะยาวของลูกน้อย หรือแม้แต่คนในครอบครัวได้
ประโยชน์ของสายสะดือ มากกว่าแค่
“อวัยวะชั่วคราว”
นอกจากหน้าที่หลักในการลำเลียงสารอาหารและออกซิเจนแล้ว สายสะดือยังเป็นแหล่งของ เซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells) ที่มีศักยภาพในการนำไปใช้ในทางการแพทย์ โดยเฉพาะ
- เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด (Hematopoietic Stem Cells – HSCs) พบในเลือดสายสะดือ ใช้ในการฟื้นฟูเซลล์เม็ดเลือดและระบบภูมิคุ้มกันรวมทั้งรักษาโรคทางโลหิตวิทยา เช่น มะเร็งเม็ดเลือดชนิดต่าง ๆ และโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- เซลล์ต้นกำเนิดชนิดมีเซนไคม์ (Mesenchymal Stem Cells – MSCs) พบในเนื้อเยื่อสายสะดือและเนื้อเยื่อหุ้มรก มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นเซลล์เซลล์ประเภทต่าง ๆ ใช้ในการฟื้นฟูเนื้อเยื่อและรักษาโรคเรื้อรัง
การเก็บเซลล์ต้นกำเนิดจากทารกแรกคลอด
ในปัจจุบัน การเก็บรักษาเซลล์ต้นกำเนิด (stem cells) จากทารกแรกคลอดได้กลายเป็นหนึ่งในหัวข้อสำคัญของเวชศาสตร์ฟื้นฟู ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ในการรักษาโรคเรื้อรังและโรคทางพันธุกรรมได้หลากหลาย ด้วยเทคโนโลยีชีวภาพที่ก้าวหน้า ทำให้เราสามารถเก็บเซลล์ต้นกำเนิดจากรกและสายสะดือ ได้ 3 แบบหลัก ๆ ได้แก่ เลือดสายสะดือ เนื้อเยื่อสายสะดือ และเยื่อหุ้มรก โดยแต่ละแหล่งมีชนิดเซลล์และคุณสมบัติเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. เซลล์ต้นกำเนิดจากเลือดสายสะดือ
เลือดที่คงค้างอยู่ในสายสะดือหลังการคลอด คือแหล่งที่อุดมไปด้วยเซลล์ต้นกำเนิดชนิดเลือด (Hematopoietic Stem Cells หรือ HSC) ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการรักษาโรคทางโลหิตวิทยาและระบบภูมิคุ้มกัน เช่น ลูคีเมีย ธาลัสซีเมีย และโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องแต่กำเนิด การเก็บเลือดสายสะดือมักดำเนินการภายในไม่กี่นาทีหลังคลอด และสามารถจัดเก็บในรูปแบบแช่แข็งเพื่อคงคุณภาพของเซลล์ไว้ได้ยาวนานหลายปี
2. เซลล์ต้นกำเนิดจากเนื้อเยื่อสายสะดือ
เนื้อเยื่อของสายสะดือ เป็นแหล่งของเซลล์ต้นกำเนิดชนิดมีเซนไคม์ (Mesenchymal Stem Cells หรือ MSCs) ซึ่งมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นเซลล์หลากหลายชนิด เช่น ไขมัน กระดูก กระดูกอ่อน และกล้ามเนื้อ เซลล์ชนิดนี้ได้รับความสนใจอย่างมากในวงการแพทย์ฟื้นฟู เนื่องจากสามารถใช้ในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและลดความรุนแรงในโรคเรื้อรังต่าง ๆ โดยการเก็บจะทำผ่านการตัดและนำสายสะดือบางส่วนไปเก็บรักษาในห้องปฏิบัติการ
3. เซลล์ต้นกำเนิดจากเนื้อเยื่อหุ้มรก
เนื้อเยื่อหุ้มรก ก็เป็นอีกแหล่งของ MSCs ที่มีความพิเศษที่สามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์เนื้อเยื่อได้หลายชนิด คุณสมบัติพิเศษสามารถลดการอักเสบ และช่วยฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพ ทั้งยังส่งผลดีในการนำไปรักษาโรคทางสมองและโรคทางระบบประสาท การเก็บเนื้อเยื่อหุ้มรกมักดำเนินการหลังการคลอดเช่นกัน โดยต้องมีการแยกและจัดเก็บในสภาวะปลอดเชื้อสูง เพื่อให้ได้เซลล์ที่มีคุณภาพพร้อมสำหรับการใช้งานการรักษาทางการแพทย์ ในอนาคต
| แหล่งเซลล์ | ประเภทหลักของเซลล์ | ศักยภาพในการพัฒนา | ลักษณะเด่น | |
| เลือดสายสะดือ | HSCs | เซลล์เม็ดเลือดแดง, เม็ดเลือดขาว, เกล็ดเลือด | ใช้ปลูกถ่ายเซลล์เม็ดเลือด, มีการใช้งานจริงในคลินิกอย่างแพร่หลาย | |
| เนื้อเยื่อสายสะดือ | MSCs | เซลล์กระดูก, กระดูกอ่อน, ไขมัน, กล้ามเนื้อ | มีความสามารถในการลดความรุนแรงและควบคุมภูมิคุ้มกัน | |
| เนื้อเยื่อหุ้มรก | MSCs | เซลล์ระบบประสาท และหลากหลายเซลล์ | ไม่กระตุ้นภูมิคุ้มกัน, ต้านการอักเสบ, ใช้ในการวิจัยด้านการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ | |
การเก็บเซลล์ต้นกำเนิดจากทารกแรกคลอดมีหลายทางเลือก ซึ่งแต่ละแบบมีศักยภาพที่แตกต่างกันและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ในปัจจุบัน การเก็บรักษาเซลล์เหล่านี้ถือเป็นการวางแผนสุขภาพระยะยาวที่ชาญฉลาดสำหรับทั้งลูกน้อยและสมาชิกในครอบครัวเลยก็ว่าได้
หากคุณกำลังมองหาสถานที่เก็บรักษาสเต็มเซลล์ที่คุณไว้วางใจได้…
STEM CELL FOR LIFE (สเต็มเซลล์ฟอร์ไลฟ์) คือคำตอบ
สอบถามบริการเพิ่มเติมได้ที่ สเต็มเซลล์ฟอร์ไลฟ์ (STEM CELL FOR LIFE) เรื่องสเต็มเซลล์มั่นใจได้ที่ SCL เพราะเราเป็นธนาคารสเต็มเซลล์แห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับใบอนุญาตการผลิตสเต็มเซลล์เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นยา จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.กระทรวงสาธารณสุข และเป็นบริษัทเดียวที่อยู่ภายใต้โรงงานเภสัชกรรมที่ได้รับ GMP มาตรฐานสากล
Hotline. 085-227-7909 24 ชั่วโมง
โทร. 0-2889-2600 จันทร์ – เสาร์ เวลา 08.00 – 17.00 น.
Email: stemcellforlife@greaterpharma.com
Line : @stemcellforlife