หลายคนที่เริ่มสงสัยว่า “เรากำลังตั้งครรภ์หรือเปล่านะ?”
อาจจะกำลังสังเกตความเปลี่ยนแปลงของร่างกายตัวเองอยู่ บางอาการอาจดูคล้ายกับช่วงก่อนมีประจำเดือน แต่บางอย่างก็เป็นสัญญาณเฉพาะตัวของการตั้งครรภ์ วันนี้เราจะพาไปดู อาการเบื้องต้น ที่มักเกิดขึ้นเมื่อมีการตั้งครรภ์ช่วงแรกๆ
1. ประจำเดือนขาด
นี่คืออาการแรกที่หลายคนสังเกตได้ชัดเจน หากคุณมีรอบเดือนปกติ แล้วจู่ๆ ประจำเดือนหายไป อาจเป็นสัญญาณที่ดีว่าร่างกายกำลังเปลี่ยนแปลง
2. เจ็บหรือคัดหน้าอก
ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะเพิ่มขึ้นเมื่อเริ่มตั้งครรภ์ ทำให้หน้าอกคัด ตึง หรือเจ็บเล็กน้อย คล้ายอาการก่อนมีประจำเดือน แต่จะรู้สึกมากกว่าปกติ
3. เหนื่อยง่ายกว่าปกติ
แม้นอนเต็มอิ่มก็ยังรู้สึกเพลีย นั่นเป็นเพราะร่างกายใช้พลังงานเยอะในการสร้างชีวิตใหม่อยู่ข้างใน
4. ปัสสาวะบ่อย
ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ มดลูกจะเริ่มขยาย และฮอร์โมนก็จะทำให้เลือดไหลเวียนมากขึ้น ส่งผลให้ไตทำงานหนักขึ้น จนคุณต้องเข้าห้องน้ำบ่อย
5. คลื่นไส้หรืออาเจียน
หรือที่เรียกว่า “แพ้ท้อง” โดยเฉพาะในตอนเช้า บางคนอาจรู้สึกแค่มึนๆ แต่บางคนอาจถึงขั้นอาเจียน
6. ปรับอารมณ์ไว
ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงอาจทำให้คุณอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ หงุดหงิดง่ายหรือซึมๆ ได้แบบไม่มีเหตุผล
7. รู้สึกอยากอาหารแปลกๆ (หรือไม่อยากเลย)
บางคนจะเริ่มอยากกินของที่ไม่เคยชอบ หรืออยู่ดีๆ ก็รู้สึกเบื่ออาหารไปเลยก็มี
8. เวียนหัว หน้ามืด
ความดันโลหิตที่ลดลงในช่วงตั้งครรภ์อาจทำให้รู้สึกหน้ามืดได้ โดยเฉพาะเวลาเปลี่ยนอิริยาบถเร็วๆ
9. ปวดท้องหน่วงๆ
คล้ายๆ กับช่วงก่อนมีประจำเดือน แต่มักจะอยู่ได้นานกว่า เป็นผลจากการฝังตัวของตัวอ่อนในมดลูก
10. ตกขาวเปลี่ยนไป
ตกขาวอาจมีปริมาณมากขึ้น และมีลักษณะข้นหรือเหนียวกว่าปกติ ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
11. มีเลือดออกเล็กน้อย (เลือดล้างหน้าเด็ก)
เกิดจากตัวอ่อนฝังตัวในผนังมดลูก อาจมีเลือดออกนิดๆ คล้ายประจำเดือนแต่ปริมาณน้อยและไม่เกิน 2-3 วัน
12. ท้องผูก
ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนมีผลต่อระบบย่อยอาหาร ทำให้ลำไส้เคลื่อนไหวช้าลง จนบางคนอาจมีอาการท้องผูกตั้งแต่ช่วงต้น
13. ท้องอืดหรือมีลมในท้อง
อาการท้องอืด เกิดจากระบบย่อยที่ทำงานช้าลง รวมถึงมดลูกที่ขยายตัวเบียดกระเพาะอาหาร
14. ปวดหัวบ่อย
ระดับฮอร์โมนที่แกว่ง อาจทำให้บางคนรู้สึกปวดหัวเหมือนจะเป็นหวัด ทั้งที่ไม่ได้ป่วย
15. อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นเล็กน้อย
หากคุณวัดอุณหภูมิร่างกายทุกวัน (เช่นผู้ที่วางแผนมีลูก) อาจสังเกตได้ว่าอุณหภูมิจะสูงต่อเนื่องหลังไข่ตก ซึ่งเป็นสัญญาณหนึ่งของการตั้งครรภ์
16. ผิวเปลี่ยนแปลง
ฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้บางคนเป็นสิว ผิวแห้ง หรือรู้สึกว่าผิวไวต่อแสงมากขึ้น
17. ลิ้นฝาดหรือรู้สึกมีรสโลหะในปาก
บางคนอาจมีอาการลิ้นฝาดเหมือนกินเหล็ก หรืออาหารที่เคยอร่อยกลับมีรสชาติแปลกๆ ไป
18. จมูกไวผิดปกติ
คุณอาจจะได้กลิ่นทุกอย่างชัดขึ้น บางกลิ่นที่เคยชอบอาจกลายเป็นกลิ่นที่ทนไม่ได้ เช่น กลิ่นอาหาร น้ำหอม หรือกลิ่นสบู่
19. เป็นสิว
การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนระหว่างตั้งครรภ์ อาจกระตุ้นให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมันมากขึ้น ส่งผลให้บางคนมีสิวขึ้นหรือสิวเห่อในช่วงตั้งครรภ์ได้
20.ปวดหลัง
คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนอาจเริ่มรู้สึกปวดหลังตั้งแต่ช่วงแรกของการตั้งครรภ์ เนื่องจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงส่งผลต่อเส้นเอ็น ข้อต่อ และกระดูกเชิงกราน ทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายหรือปวดหลังได้
แล้วควรทำอย่างไร ถ้าสงสัยว่าตัวเองท้อง?
-
ใช้ที่ตรวจครรภ์
สามารถตรวจได้หลังประจำเดือนขาดไป 7 วัน เพื่อให้ระดับฮอร์โมน hCG มากพอที่จะให้ผลแม่นยำ
-
ไปพบแพทย์
หากผลตรวจขึ้น 2 ขีด ควรไปยืนยันการตั้งครรภ์กับแพทย์ และเริ่มฝากครรภ์
-
ดูแลตัวเองตั้งแต่เริ่มต้น
พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และงดสารที่เป็นอันตราย เช่น แอลกอฮอล์ บุหรี่ ยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์
-
เริ่มทานกรดโฟลิก
ซึ่งสำคัญมากต่อพัฒนาการของสมองและไขสันหลังของทารก
คำถามที่พบบ่อย
ท้อง 3 วันรู้ได้ไหม?
โดยทั่วไปยังเร็วเกินไปที่จะมีอาการชัดเจน ควรรออย่างน้อย 1–2 สัปดาห์หลังปฏิสนธิก่อนตรวจครรภ์
อาการเหมือนท้องแต่ไม่ท้อง เป็นไปได้ไหม?
เป็นไปได้ เช่น อาการจากฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ความเครียด หรือแม้แต่ภาวะ “ท้องหลอก” ซึ่งควรได้รับการวินิจฉัยโดยแพทย์
ลักษณะท้องจะเปลี่ยนเมื่อไหร่?
โดยปกติจะเริ่มเห็นหน้าท้องขยายชัดเจนในช่วงไตรมาสที่ 2 แต่ระยะ 1–2 เดือนแรกยังไม่สังเกตได้ชัด
อาการข้างต้นเป็นเพียงสัญญาณเบื้องต้นเท่านั้น หากคุณสงสัยว่ากำลังตั้งครรภ์ วิธีที่แม่นยำที่สุดคือการตรวจด้วยชุดตรวจครรภ์หรือพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเลือดหรืออัลตราซาวด์ การฟังเสียงร่างกายตัวเองเป็นเรื่องสำคัญ หากคุณรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง อย่าลังเลที่จะดูแลตัวเองให้ดีที่สุดตั้งแต่วันนี้เลย
หากคุณกำลังมองหาสถานที่เก็บรักษาสเต็มเซลล์ที่คุณไว้วางใจได้…
STEM CELL FOR LIFE (สเต็มเซลล์ฟอร์ไลฟ์) คือคำตอบ
สอบถามบริการเพิ่มเติมได้ที่ สเต็มเซลล์ฟอร์ไลฟ์ (STEM CELL FOR LIFE) เรื่องสเต็มเซลล์มั่นใจได้ที่ SCL เพราะเราเป็นธนาคารสเต็มเซลล์แห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับใบอนุญาตการผลิตสเต็มเซลล์เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นยา จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.กระทรวงสาธารณสุข และเป็นบริษัทเดียวที่อยู่ภายใต้โรงงานเภสัชกรรมที่ได้รับ GMP มาตรฐานสากล
Hotline. 085-227-7909 24 ชั่วโมง
โทร. 0-2889-2600 จันทร์ – เสาร์ เวลา 08.00 – 17.00 น.
Email: stemcellforlife@greaterpharma.com
Line : @stemcellforlife